อัยย๊ะ..ปลาป๋อง !! โดย..เชิงภู
...ลงเรือน้อยลอยวน ในสายชลห้วยละหาน มีทั้งบัวตูมบัวบาน ดอกใบไหวก้านงามตา เมื่อลมพัดมาชื่นใจ..... เสียงเพลงบัวตูมบัวบานดังจากเครื่องเสียงตามสายของหมู่บ้านไม่นานเพลงจบเสียงผู้ใหญ่บ้านก็กระหึ่มดังไปทั่วท้องทุ่ง เพราะผู้ใหญ่บ้านนั้นเสียงดังอยู่แล้วเมื่อได้อยู่ใกล้ไมค์ยิ่งไม่ออมเสียง แน่นอนที่สุดว่าไม่มีลูกบ้านคนไหนไม่ได้ยินเสียงที่บอกลอยลมมา หลายครั้งที่ลูกบ้านกระซิบบอกว่าเวลาพูดออกไมค์เสียงตามสายลดระดับลงซักหน่อย ลดทั้งระดับเสียงของผู้ใหญ่บ้าน และระดับเสียงของลำโพง แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าลดไม่ได้เผื่อลูกบ้านคนไหนอยู่ในส้วม คนไหนอยู่บนเขา (อยู่บนภูเขา) เค้าจะได้ไม่พลาดข่าวสาร
เสียงตามสายแจ้งว่า วันนี้ผู้ว่าฯ ได้เดินทางมามอบสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม จุดศูนย์กลางอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้าน หลังจากมีการสำรวจโดยผู้ใหญ่บ้านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ทุกคนในหมู่บ้านก็ได้รับการช่วยเหลือ
“เอ้ย!! เพื่อนหมายยกขึ้น (ลุกขึ้น) ไปรับของแจกกันที่วัด ผู้ว่ามาแจกของแล้ววันนี้” ลุงวันที่กำลังตากผ้าอยู่นั้นตะโกนเรียกเพื่อนซี้ที่ยังนอนอยู่บนบ้าน
“เออ ดีว่ะน้ำท่วมเที่ยวนี้ได้ของแจกแล้วโว้ย แต่จริงๆกูไม่ได้นี่หว่า กูไม่ใช่คนแถวนี้ กูคนอีสาน มาพบพานน้ำท่วมที่ปักษ์ใต้” ทิดหมายที่ลืมตาตื่นพูดปร๋อก่อนจะยันตัวลุกนั่ง
“แล้วมึงจะคิดไหรมาก (คิดอะไรมาก) ถุงเดียวกับกูนี่ล่ะ ได้มาเอามาหุงมาแกง กินร่วมกันนี่แหล่ะ ได้ประหยัดช่วยชาติ ฮ่าฮ่าฮ่า” ลุงวันพูดแล้วหัวเราะขำ
ใส่เสื้อผ้าแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้วสองหนุ่มตอนปลายลงจากบ้าน มือหิ้วรองเท้าฟองน้ำไว้เพราะลานบ้านยังเต็มไปด้วยน้ำยังแห้งไม่หมด และเส้นทางที่จะเดินไปวัดประจำหมู่บ้านนั้นบางช่วงก็มีน้ำท่วมขังอยู่การใส่รองเท้าคงไม่สะดวกแต่ที่วัดน้ำแห้งหมดแล้วเพราะวัดอยู่ในที่สูง สองหนุ่มเลยตั้งใจจะให้เรียบร้อยสักหน่อยเพื่อให้เกียรติท่านผู้ว่า ไม่เดินเท้าเปล่าน่าจะดีกว่า
บริเวณวัดเต็มไปด้วยผู้คน เพราะวันนี้ใช้วัดประจำหมู่บ้านรองรับผู้คนเกือบห้าหมู่บ้านมารวมกันรับของแจกน้ำท่วม ทุกคนแม้จะประสบความทุกข์ยากจากภาวะน้ำท่วมบางคนเจอหนักมากข้าวในนาเสียหายหลายไร่ แต่ทุกคนก็ยังมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายกันตามประสาคนบ้าน
ใกล้เรือนเคียง ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านรวมทั้งจิตอาสาหลายคนช่วยกันแยก ช่วยกันวางถุงยังชีพในบริเวณโรงธรรม เมื่อผู้ว่าฯ มาถึง ผู้ใหญ่บ้านเชิญชาวบ้านเข้าไปนั่งอย่างเป็นระเบียบก่อนจะเรียนเชิญท่านผู้ว่าฯ พบปะพูดคุยกับชาวบ้านให้กำลังใจ เมื่อเสร็จสิ้นการพูดคุยการแจกถุงยังชีพก็เริ่มขึ้น
ถุงยังชีพสีน้ำตาลอยู่บนบ่าของทิดหมาย สองหนุ่มตอนปลายที่รองเท้าฟองน้ำเอาเหน็บไว้กับเอวกางเกงด้านหลัง เดินตรงกลับบ้าน สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายผู้คนที่เดินกลับมาพร้อมๆกัน
ถุงยังชีพเหลือแต่ถุงถูกพาดตากไว้กับราวผ้าข้างฝาบ้าน ข้าวของทุกอย่างวางอยู่หน้า สองคนนั่งมอง
“ได้อะไรมั่งล่ะ?” ทิดหมายถามเพื่อนซื้
“ก็เดิมๆนั่นแหล่ะ มาม่า ปลาป๋อง (ปลากระป๋อง) ข้าวสาร น้ำ สบู่ ได้มาม่าหลายห่อ(หลายซอง)เลย ปลาป๋องกะหลายป๋อง อ้อ..น้ำท่วมหนนี้แจกข้าวสารสองถุงเลยโว้ย ใช่ได้ๆ” ลุงวันพูด
“ว่าแล้วกะอยากแกงส้มปลากระป๋อง ช้าอยู่ไย หุงข้าวหุงแกงดีหวา (ดีกว่า) เนือยแล้วเด้(หิวแล้ว)” ลุงวันพูดพร้อมกับเดินเข้าครัวผ่านไปแค่แป๊บเดียวควันไฟจากเตาไม้ฟืนลอยคลุ้ง ลุงวันออกจากครัวพร้อมกะละมังและมีด
“มึงช่วยปอกลอกอที (ช่วยปอกมะละกอให้หน่อย) กูจะแกงส้มลอกอใส่ปลาป๋อง” ลุงวันพูด
“กูสาไม่สู้กินแกงปลาป๋อง (กูน่าจะไม่ค่อยกล้ากินปลากระป๋อง)” ทิดหมายพูดพลางปอกมะละกอไปด้วย
“เอ๋า..ไซรหล่าวล่ะ (อ้าว ทำไมล่ะ)?” ลุงวันถามจากในครัวกำลังจะตำเครื่องแกงส้ม
“ข่าวออกแรกแต่วา (มีข่าวเมื่อวาน) ปลาป๋องมีพะยาติ๊” ทิดหมายบอก
“ไอ้ไหรของมึงนิ (อะไรของมึง) พะยาติ๊?” ลุงวันถาม
“พยาธิเต็มป๋องเลย แหลงแล้วก็เคลื่อนอก (พูดแล้วก็คลื่นไส้) ” ทิดหมายทำหน้าแหยงๆ
“ฮาย..สนใจไหร พยาธิมันตายแหม็ดแล้ว (ตายหมดแล้ว) ทีบ้านมึงกินปลาร้าหนอนอยู่ในปลาร้ายังบอกว่าแซ่บหลาย แซ่บคัก ฮ่าฮ่าฮ่า” ลุงวันตำเครื่องไปพูดไปหัวเราะร่วน
“มันไม่เหมือนกันนะ หนอนกับพยาธิ คำว่าพยาธิมันไม่น่ากิน” ทิดหมายแย้ง
มะละกอถูกปอกเรียบร้อยและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ มะขามเปียกถูกคั้นเอาน้ำใส่ถ้วยไว้ เครื่องแกงสีเหลืองแกมแดงอยู่ในครก ลุงวันใส่กะปิลงไป แล้วบดสากกับครกและตำอีกรอบจนเครื่องแกงเข้ากันอย่างดี
น้ำแกงเดือดส่งกลิ่นหอมลุงวันใส่น้ำมะขามเปียกลงไป ตามด้วยมะละกอในกะละมัง “ เอ้ย!! เพื่อนหมายเอาปลากระป๋องมาสองป๋องเลย” ลุงวันตะโกนบอก
“อัยย๊ะ..ปลาป๋อง !!” ลุงวันเปิดฝากระป๋องแล้วทำตาโต
“ไอ้ไหรๆ (อะไรๆ) ?” ทิดหมายถามน้ำเสียงหวั่นๆ
“ปลาบ้องเติบ (ปลาชิ้นใหญ่)”